ปราการเหล็กของทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ยาวนาน เป็นหนึ่งในสนามแห่งแรกๆของวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว
โดยสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดั้งเดิมนั้นเปิดใช้ในปี 1877 โดยเป็นสนามกีฬาของสโมสรกีฬาลอนดอน จนกระทั่งมาเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 1904 เมื่อมีการขายพื้นที่สนามเดิมและไปสร้างสนามใหม่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง ฟูแล่ม และย่านเชลซี โดยทีมใหม่ก็คือทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยมีสถาปนิกชื่อก้อง อาร์ชิบัลด์ ลีตช์ ซึ่งออกแบบสนาม ไอบรอกซ์, เซลติก ปาร์ค และคราเวน ค็อตเทจ สนามของทีมฟูแล่ม ซึ่งเป็นคู่ปรับสายตรงของ เชลซี
เดิมสแตมฟอร์ด บริดจ์ มีความจุในยุคนั้นกว่า 100,000 คน เป็นสนามที่ใหญ่อันดับที่ 2 รองจากสนามของทีมคริสตัล พาเลซ และเคยใช้จัดแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศด้วย
อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในปี 1945 โดยสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นสนามที่ทีมสหภาพโซเวียต เดินทางมาเยือนอังกฤษ หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก โดยเกมนั้นมีแฟนบอลเข้ามาชมกันกว่าแสนคน และเกมจบลงด้วยความน่าตื่นเต้นกับสกอร์ 3-3
แต่ในช่วงปี 1970 เชลซี เริ่มประสบปัญหาในการต่อเติมสแตมฟอร์ด บริดจ์ จนทำให้ทีมอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างยาวนาน จนเคน เบตส์ เข้ามาซื้อสโมสรในปี 1982 ด้วยเงิน 10ล้านปอนด์ โดยไม่ได้ซื้อสนามด้วย และมีการต่อสู้กับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มาร์เลอร์ เอสเตทส์ อย่างยาวนานในเรื่องกรรมสิทธิ์ก่อนที่ เบตส์ จะเป็นฝ่ายชนะและดำเนินการปรับปรุงสนาม
สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีการปรับใหญ่อีกครั้งโดยการติดตั้งที่นั่งทั้งหมดหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ห์ โดยแล้เสร็จในปี 1994-95 โดยครัง้นั้นมีที่นั่ง 34,000 ที่นั่ง ก่อนจะขยายเป็น 41,837 ที่นั่งในปัจจุบัน
ในอนาคต สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจจะกลายเป็นอดีตเพราะ เชลซี มีแผนที่จะย้ายสนามใหม่เพราะการขยายสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเรื่องลำบากเพราะสนามตั้งอยู่ใจกลางมหานครลอนดอนพอดี
แต่ในเวลานี้ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยังคงเป็นสนามเหย้าของทีมสิงห์บลูส์ และเป็นหนึ่งในสนามที่น่าเกรงขามที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษยุคนี้
สวยไหมครับสนามเหย้าของเชลซี