วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

สแตมฟอร์ด บริดจ์ ปราการเหล็กของเซลซี

ครับวันนี้ผมจะมานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสนามเหย้าของทีมเซลซี คือสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์นั่นเองครับ

ปราการเหล็กของทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ยาวนาน เป็นหนึ่งในสนามแห่งแรกๆของวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว
โดยสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดั้งเดิมนั้นเปิดใช้ในปี 1877 โดยเป็นสนามกีฬาของสโมสรกีฬาลอนดอน จนกระทั่งมาเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 1904 เมื่อมีการขายพื้นที่สนามเดิมและไปสร้างสนามใหม่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง ฟูแล่ม และย่านเชลซี โดยทีมใหม่ก็คือทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยมีสถาปนิกชื่อก้อง อาร์ชิบัลด์ ลีตช์ ซึ่งออกแบบสนาม ไอบรอกซ์, เซลติก ปาร์ค และคราเวน ค็อตเทจ สนามของทีมฟูแล่ม ซึ่งเป็นคู่ปรับสายตรงของ เชลซี 

เดิมสแตมฟอร์ด บริดจ์ มีความจุในยุคนั้นกว่า 100,000 คน เป็นสนามที่ใหญ่อันดับที่ 2 รองจากสนามของทีมคริสตัล พาเลซ และเคยใช้จัดแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศด้วย 

อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในปี 1945 โดยสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นสนามที่ทีมสหภาพโซเวียต เดินทางมาเยือนอังกฤษ หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก โดยเกมนั้นมีแฟนบอลเข้ามาชมกันกว่าแสนคน และเกมจบลงด้วยความน่าตื่นเต้นกับสกอร์ 3-3

แต่ในช่วงปี 1970 เชลซี เริ่มประสบปัญหาในการต่อเติมสแตมฟอร์ด บริดจ์ จนทำให้ทีมอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างยาวนาน จนเคน เบตส์ เข้ามาซื้อสโมสรในปี 1982 ด้วยเงิน 10ล้านปอนด์ โดยไม่ได้ซื้อสนามด้วย และมีการต่อสู้กับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มาร์เลอร์ เอสเตทส์ อย่างยาวนานในเรื่องกรรมสิทธิ์ก่อนที่ เบตส์ จะเป็นฝ่ายชนะและดำเนินการปรับปรุงสนาม 

สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีการปรับใหญ่อีกครั้งโดยการติดตั้งที่นั่งทั้งหมดหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ห์ โดยแล้เสร็จในปี 1994-95 โดยครัง้นั้นมีที่นั่ง 34,000 ที่นั่ง ก่อนจะขยายเป็น 41,837 ที่นั่งในปัจจุบัน

ในอนาคต สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจจะกลายเป็นอดีตเพราะ เชลซี มีแผนที่จะย้ายสนามใหม่เพราะการขยายสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเรื่องลำบากเพราะสนามตั้งอยู่ใจกลางมหานครลอนดอนพอดี 

แต่ในเวลานี้ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยังคงเป็นสนามเหย้าของทีมสิงห์บลูส์ และเป็นหนึ่งในสนามที่น่าเกรงขามที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษยุคนี้









สวยไหมครับสนามเหย้าของเชลซี

เมสตาญ่า สเตเดี้ยม สนามเหย้าของบาเลนเซีย



เมสตาญ่า สเตเดี้ยม หรือชื่อเต็มๆว่า “เอสตาดิโอ เด เมสตาญ่า” เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเล่นที่แฟนๆสมัยก่อนเรียกขานกันสนุกปากว่าเป็น “วังค้างคาว” โดยมิได้เป็นอะไรกับวังค้างคาวของ ชอลิ้วเฮียง จอมยุทธ์ชื่อก้องในนิยายจีนแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะสนามแห่งนี้เป็นสนามของทีม “ค้างคาว” บาเลนเซีย หนึ่งในสโมสรชื่อดังที่สุดของสเปน ที่เป็นรองก็แค่บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และแอตเลติดโก มาดริด แค่นั้น

เมสตาญ่า ก่อสร้างขึ้นในปี 1923 โดยบาเลนเซีย สร้างสนามแห่งนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนสนามเก่าอัลกิรอส ที่แฟนบอลทีม “ลอส เช” ต่างรักและผูกพัน เพียงแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าจึงต้องพยายามหาที่ทางใหม่เพื่อให้ทีมพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง

สนามแห่งนี้เริ่มต้นด้วยความจุไม่มากแค่ราว 17,000 คน ก่อนจะมีการขยายขึ้นมาเรื่อยๆตามความนิยมของสโมสรที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากแฟนๆ และนำไปสู่ความสำเร็จในช่วงทศวรรษที่ 40 เมื่อทีมได้แชมป์ลา ลีกา 3 สมัย กับแชมป์โคปา เดล เรย์

เมื่อถึงช่วงทศวรรษที่ 50 บาเลนเซีย ตัดสินใจครั้งสำคัญในการปรับปรุงสนามให้มีความจุ 45,000 คน โดยสโมสรเติบโตเรื่อยมา ก่อนมีการเปลี่ยนชื่อเป็น หลุยส์ คาซาโนวา เพื่อเป็นเกียรติกับประธานสโมสรผู้อุทิศตัวสร้างทีมจนรุ่งเรืองในปี 1969 ก่อนจะกลับมาใช้ชื่อ “เมสตาญ่า” อีกครั้งในปี 1994

วังค้างคาวแห่งนี้ยังมีการต่อเติมอีกโดยปัจจุบันมีความจุ 55,000 ที่นั่ง เป็นสนามใหญ่ลำดับที่ 5 ของสเปน ของบาเลนเซีย สโมสรฟุตบอลชั้นนำของแดนกระทิงดุที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
แต่ในอนาคตอีกไม่นานที่แห่งนี้จะกลายเป็นประวัติศาสตร์เพราะบาเลนเซีย กำลังสร้าง "นู เมสตาญ่า" วังค้างคาวแห่งใหม่ในอนาคต

ประจำเลยน่ะ ผีแดงสลักชื่อฟัลเกาผิดอีกแล้ว

 สโมสร "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สกรีนชื่อนักเตะบนเสื้อผิดอีกแล้ว เมื่อล่าสุดแฟนบอลรายหนึ่งสั่งซื้อเสื้อทางออนไลน์ หวังจะได้เป็น "ราดาเมล ฟัลเกา (FALCAO)" ศูนย์หน้าคนใหม่ของทีม แต่ปรากฏว่าเสื้อที่สโมสรส่งมาให้ด้านหลังดันสะกดเป็น "ฟลาเกา (FLACAO)" ซะงั้น

ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมงานเรื่องชุดแข่งของ "ปีศาจแดง" ทำผิดพลาด เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยสลับตัวอักษรชื่อนักเตะในทีมมาแล้วหลายราย ไม่เว้นแม้กระทั่ง ซูเปอร์สตาร์ของทีมอย่าง "เดวิด เบ็คแฮม" ด้วยซ้ำ

ย้อนรอยการ "สะกดผิด" ของชุดแข่งผีแดง

- อันแดร์สัน (ANDERSON) ผิดเป็น อันเดสรอน (ANDESRON)
- คุสซ์แซ็ค (KUSZCZAK) ผิดเป็น ซุสซ์แซ็ค (ZUSZCZAK)
- เบ็คแฮม (BECKHAM) ผิดเป็น เบ็คคาม (BECKAM)
- โซลชาร์ (SOLSKJAER) ผิดเป็น โซล์คส์ชาร์ (SOLKSJAER)
และล่าสุด ฟัลเกา (FALCAO) ผิดเป็น ฟลาเกา (FLACAO) นั่นเอง

ล็อคเป้า! ชุดขาวเล็งอาซาร์ หาก”โด้”กลับซบผี


ถือเป็นแผนสำรอง ที่รองรับอนาคต ของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน  ตกเป็นข่าวเตรียมทุ่มเงินกว่า 60 ล้านปอนด์ หรือราว 3,300 ล้านบาท เพื่อคว้าตัว เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของ"สิงห์บลูส์" เชลซี มหาเศรษฐีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์หน้า  หากว่าอนาคตต้องเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส ย้ายกลับไปเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

โรนัลโด้ มักจะกล่าวถึงการย้ายกลับไปค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดเก่าอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด จะออกมาปฏิเสธแล้วก็ตาม

ล่าสุด "ดิ เอ็กซ์เพรส" สื่อดังเมืองผู้ดี รายงานว่า "ราชันชุดขาว" มีแผนปล่อยกัปตันฝอยทองรายนี้ กลับไปร่วมทัพเก่า "ปีศาจแดง" ประมาณ 55 ล้านปอนด์ หรือราว 3,025 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่ แมนฯยูฯ  จะต้องไม่ซื้อขาด ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกโคลอมเบีย หลังจบฤดูกาลนี้ เพื่อเปิดทางให้มาดริดดึงตัวไปร่วมทีมแบบถาวรอีกราย

ทำให้ตอนนี้ คาร์โล่ อันเช่ลอตติ กุนซือทีม ''ราชันชุดขาว'' ตั้งเป้าที่จะคว้าอาซาร์ สตาร์ทีมชาติเบลเยียมวัย 23 ปี ที่กลายเป็นนักเตะตัวหลักของเชลซีในเวลานี้ เพื่อเข้ามาแทนที่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ของทีม ให้จงได้

แมนยู ซื้อ อังเคลดิมาเรีย เพราะกระดาษใบนี้แพงใบหรอ

ครับเป็นค่าตัวสถิติเลยก็ว่าได้ครับสำหรับแมนยู ที่ได้ทุบสถิติเกาะอังกฤษในการซื้ออังเคลดิมาเรีย เหตุใดหรอที่แมนยูต้องทุ่มมากขนาดนี้เรามาชมกันเลยครับ


วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

สรุปวันเดดไลน์พรีเมียร์ย้ายกันกระจาย


ในที่สุดตลาด ซื้อขายนักเตะปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีนักเตะหลายคนย้ายทีมกันเอาใน วันสุดท้าย จึงขอสรุปเอาการย้ายทีมของเวทีพรีเมียร์ลีกในวันสุดท้ายมาส่วนลีกอื่นๆจะตาม ทยอยให้ได้ติดตามกันต่อไป


        # ราดาเมล ฟัลเกา - จาก โมนาโก ไป แมนฯ ยูไนเต็ด (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # แดนนี่ เวลเบ็ค - จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป อาร์เซน่อล (ไม่เปิดเผยค่าตัว คาดว่า16ล้านปอนด์)

        # ดาลี่ย์ บลินด์ - จาก อาแจ๊กซ์ (ฮอลแลนด์) ไป แมนฯ ยูไนเต็ด (14 ล้านปอนด์)

        # ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ -  จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป เรอัล มาดริด (สเปน) (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # ไมเคิ่ล คีน - จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป เบิร์นลี่ย์ (ยืมตัวถึงเดือนมกราคม)

        # นิค พาวล์ - จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป เลสเตอร์ ซิตี้ (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # ทอม ลอว์เรนซ์ จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป เลสเตอร์ ซิตี้ (1ล้านปอนด์)

        # ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา - จาก นิวคาสเซิ่ล ไป ฮัลล์ ซิตี้ (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # ซาดิโอ มาเน่ - จาก ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) ไป เซาธ์แฮมป์ตัน (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # เควิน ดอยล์ - จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป คริสตัน พาเลซ (ยืมตัว)

        # คริสซ์เตียน อาดอร์ยาน - จาก ลิเวอร์พูล ไป โนวาร่า (อิตาลี)  (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ - จาก แอต.มาดริด (สเปน) ไป เซาธ์แฮมป์ตัน (ยืมตัว)

        # มอร์แกน อามัลฟิตาโน่ - จาก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ไป เวสต์แฮม (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # นิโก้ ครันจ์ชาร์ - จาก ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ไป ควีนส์ปาร์ค (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # อัลบาโร เนลเกรโด้ - จาก แมนฯ ซิตี้ ไป บาเลนเซีย (สเปน) (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # อุสซามา อัสไซดี้ - จาก ลิเวอร์พูล ไป สโต๊ค ซิตี้ (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # กาสตอน รามิเรซ - จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไป ฮัลล์ ซิตี้ (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # มาปู ยองกา-เอ็มบิวา - จาก นิวคาสเซิ่ล ไป โรม่า (อิตาลี) (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # ซานโดร - จาก สเปอร์ส ไป ควีนส์ปาร์ค (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # ไมกาห์ ริชาร์ดส - จาก แมนฯ ซิตี้ ไป ฟิออเรนตินา (อิตาลี) (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ - จาก วีแกน ไป คริสตัล พาเลซ (7ล้านปอนด์)

        # เรียว มิยาอิชิ - จาก อาร์เซน่อล ไป ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) (ยืมตัว 1 ซีซั่น)

        # เซกี้ ไฟรเออร์ - จาก สเปอร์ส ไป คริสตัล พาเลซ (3ล้านปอนด์)

        # คริส สกอตต์ - จาก สวอนซี ไป เลสเตอร์ (ฟรี)

        # ริคกี้ อัลวาเรซ - จาก อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)ไป ซันเดอร์แลนด์ (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ - จาก เวสต์แฮม ไป ฮัลล์ ซิตี้ (3.5 ล้านปอนด์)

        # เซบาสเตียน โคอาเตส - จาก ลิเวอร์พูล ไป ซันเดอร์แลนด์ (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # ลูอิส โฮลท์บี้ - จาก สเปอร์ส ไป ฮัมบูร์ก (ยอรมัน) (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # อาเบล เฮร์นานเดซ - จาก ปาแลร์โม่ (อิตาลี) ไป ฮัลล์ ซิตตี้ (10ล้านปอนด์)

        # ไบรอัน เลนิแฮม - จาก คอร์ก ซิตี้ (ไอร์แลนด์) ไป ฮัลล์ ซิตตี้ (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # คาริม เอ อาห์มาดี้ - จาก แอสตัน วิลล่า ไป เฟเยร์นูร์ด (ฮอลแลนด์) (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # จอร์จ บอยด์ - จาก ฮัลล์ ซิตี้ ไป เบิร์นลี่ย์ (3ล้านปอนด์)

        # โมดู บาร์โรว์ - จาก ออสเตอร์ซุนด์ส (สวีเดน) ไป สวอนซี (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # ซูเลมาน คูลิบาลี่ย์ - จาก สเปอร์ส ไป บารี่ (อิตาลี) (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # มาร์โก ฟาน กิงเคล - จาก เชลซี ไป เอซี มิลาน (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # เบนจามิน สตัมโบลี่ - จาก มงต์เปลลิเยร์ (ฝรั่งเศส) ไป สเปอร์ส (ไม่เปิดเผยค่าตัว)

        # นาธาเนียล ชาโลบาห์ - จาก เชลซี ไป เบิร์นลี่ย์ (ยืมตัว)

        # วาเลนติน โรเบิร์ก - จาก ซันเดอร์แลนด์ ไป แรงส์ (ยืมตัว1ซีซั่น)

        # โชเซ่ กันญาส - จาก สวอนซี ไป เอสปันญ่อล (ยกเลิกสัญญา)

"เนเกรโด้"เผยที่บ้านดีใจจนร้องไห้ย้ายเข้าถ้ำค้างคาว



อัลบาโร่ เนเกรโด้ดาวยิงตัวยืมของ"ค้างคาว"บาเลนเซียเปิดเผยว่าคนในครอบครัวของเขาถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นตนย้ายมาเล่นในถิ่นเมสตาญ่า สเตเดี้ยม

ดาวยิงวัย 29 ปีย้ายจากยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์กลับไปค้าแข้งในลีกบ้านเกิดกับบาเลนเซียด้วยสัญญายืมตัวในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

"หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของผมเริ่มร้องไห้เมื่อพวกเขารู้ว่าผมกำลังจะย้ายไปบาเลนเซีย พ่อตาของผมเคยซื้อตั๋วปีแต่ต้องหยุดการไปเมสตาญ่าด้วยเหตุผลเรื่องงาน นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมย้ายมาที่นี่"เนเกรโด้กล่าว

"ผมไม่ได้เสียสละอะไรเพราะผมกลับมาที่ประเทศของผม ผมมีความสุขและปรับตัวได้ดีที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้แต่การย้ายครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโอกาส ประธานสโมสรบาเลนเซียและรูเฟเต้ให้โอกาสกับผม ผมมาที่นี่เพื่อทำงานหนักและฟื้นตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

"ผมได้มาอยู่ในที่ที่ต้องการแล้วซึ่งเป็นสโมสรที่แสดงความเชื่อมั่นในตัวผม ผมหวังว่าเราจะกลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปเพราะมันเป็นรายการที่บาเลนเซียควรจะอยู่"


เบ็คส์ สุดเศร้าเมื่อแดนหนีผีซบปืน



เดวิด เบ็คแฮม ตำนานนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับว่า เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าดาวรุ่งที่ย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล คู่ปรับร่วมลีก เนื่องจากมองว่าไม่อยากเห็นนักเตะดาวรุ่งที่เติบโตมาต้องโยกไปเล่นให้ทีมอื่น พร้อมเชื่อมั่นว่า แข้งรายนี้จะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับสังกัดใหม่

อดีตจอมปั่นฟรีคิกของ "ปีศาจแดง" กล่าวว่า "เราเป็นกังวลกันตลอด เกี่ยวกับนักเตะดาวรุ่งที่กำลังเติบโตมา รวมไปถึงการได้เห็น แดนนี่ ออกจาก ยูไนเต็ด ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม และไม่ได้ต้องการมันในอนาคต แต่การเห็นเขาออกจากทีมไป มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่แน่นอนว่าผู้จัดการทีมรู้ดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขาทำในสิ่งที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีที่สุดแน่นอน"

"จากการที่ แดนนี่ เติบโตมากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับ อาร์เซน่อล ได้แน่ แต่มันช่างเศร้า ที่จะเห็นเขาเล่นให้กับทีมอื่น" มิดฟิลด์เท้าชั่งทอง ร่ายยาว

ทั้งนี้ เวลเบ็ค วัย 23 ปี ย้ายไปอยู่กับทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (ราวๆ 880 ล้านบาท) โดยยังไม่มีการเปิดเผยว่าเจ้าตัวจะค้าแข้งในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กี่ฤดูกาล

โคตรทีมแพง ปี 2014-2015


ผู้รักษาประตู : แยน โอบลัค (16 ล้านยูโร) จาก เบนฟิก้า ไป แอต. มาดริด

แบ็กซ้าย : ลุค ชอว์ (37.5 ล้านยูโร) จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ดาวิด หลุยซ์ (49.5 ล้านยูโร) จาก เชลซี ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง, เอเลียควิม ม็องกาล่า (53.82 ล้านยูโร) จาก ปอร์โต้ ไป แมนฯ ซิตี้

แบ็กขวา : คัลลั่ม แชมเบอร์ส (20.2 ล้านยูโร) จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไป อาร์เซน่อล

กองกลาง : เชส ฟาเบรกาส (33 ล้านยูโร) จาก บาร์เซโลน่า ไป เชลซี, อังเดร์ เอร์เรร่า (36 ล้านยูโร) จาก แอธ. บิลเบา ไป แมนฯ ยูไนเต็ด

ปีกซ้าย : อังเคล ดิ มาเรีย (74.95 ล้านยูโร) จาก เรอัล มาดริด ไป แมนฯ ยูไนเต็ด

กองกลางตัวรุก : ฮาเมส โรดริเกวซ (80 ล้านยูโร) จาก โมนาโก ไป เรอัล มาดริด

ปีกขวา : อเล็กซิส ซานเชซ (42.5 ล้านยูโร) จาก บาร์เซโลน่า ไป อาร์เซน่อล

กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ (81.25 ล้านยูโร) จาก ลิเวอร์พูล ไป บาร์เซโลน่า

มาแล้ว 'เต้าข่าวเดลี่' ฉบับพิเศษ อำลาเทพแดน