10. อ็องตวน กรีซมันน์
เขาอาจจะยังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังคับวงการลูกหนัง และยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรเล็กๆ แบบเรอัล โซเซียดาด แต่ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ของเจ้าตัวโดดเด่นมากเสียจนเราทำใจค่อนข้างลำบากที่จะมองข้ามเขาไป และตัดสินใจใส่ชื่อนักเตะรายนี้แทนอังเคล ดิ มาเรีย ที่ระยะหลังบทบาทในทีมราชันชุดขาวน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
จนถึงนาทีนี้ กรีซมันน์ทำไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ และถ้าเขายังรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้เอาไว้ได้เรื่อยๆ การเป็นดาวประดับวงการอีกรายก็คงไม่ไกลเกินฝันเท่าไหร่นัก
9. ดาวิด อลาบา
แบ็คซ้ายชาวออสเตรียอาจจะไม่ได้มีลีลาหวือหวาน่าตื่นตาเหมือนนักเตะรายอื่นๆ ซึ่งเล่นในเกมรุกเป็นหลัก แต่ถ้าพูดถึงความสม่ำเสมอต้องยอมรับว่าเขากินขาดคนอื่นๆ อยู่พอสมควร
อลาบาพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นแบ็คซ้ายแถวหน้าของวงการฟุตบอลอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีหลัง และจากการเล่นที่ค่อนข้างแน่นอนทั้งในเกมรุกและเกมรับตลอดเวลาที่ผ่านมา คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยนักหากจะบอกว่าอลาบาคือแบ็คซ้ายเบอร์หนึ่งของโลกชั่วโมงนี้
8. ฆวน มาตา
มาตาอาจจะต้องเจอมรสุมสารพันในฤดูกาลนี้ ไล่ตั้งแต่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นตัวสำรองอดทนในสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากที่เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมเป็นโชเซ มูรินโญ จนกระทั่งย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมใหม่ได้ไม่ค่อยลงตัวนัก จนยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนสองฤดูกาลที่แล้วออกมาได้
อย่างไรก็ดี กองกลางชาวสเปนก็ยังถือเป็นผู้เล่นชั้นยอดของโลกที่มีเท้าซ้ายสุดอันตราย ทั้งยิง, จ่าย รวมถึงลูกตั้งเตะต่างๆ และแฟนบอลทั่วโลกล้วนต่างหวังให้เขากลับมาเล่นได้ตามมาตรฐานเดิมในเร็ววัน
7. ดาบิด ซิลบา
ดาบิด ซิลบา อาจจะไม่ได้เป็นข่าวมากนักในฤดูกาลนี้ หากเทียบกับเซร์คิโอ อเกวโร, ยายา ตูเร หรือซามิร์ นาสรี แต่ถ้าพูดถึงผลงานในสนาม จอมทัพชาวสเปนก็ยังมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา ด้วยการเป็นเจ้าของสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในทีมเรือใบสีฟ้าด้วยจำนวน 7 ครั้งด้วยกัน
นอกจากนี้ซิลบายังเป็นนักเตะที่มีอัตราการสร้างโอกาสให้เพื่อนได้มากถึง 3.9 ครั้งต่อเกม ซึ่งถือเป็นอัตราเฉลี่ยที่สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าเขายังเป็นแถวหน้าของลีกแดนผู้ดีอยู่ไม่เสื่อมคลาย
6. โรบิน ฟาน เพอร์ซี
สิงห์อีซ้ายเจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลติด อาจจะฟอร์มแผ่วไปบ้างในฤดูกาลนี้ เพราะผลงานโดยรวมของทีมปีศาจแดงทำได้ไม่ดีนัก แต่เจ้าตัวก็ยังถือเป็นนักเตะที่อันตรายอยู่เสมอเมื่ออยู่หน้าปากประตู และจนถึงปัจจุบันเขาก็ทำไปแล้วถึง 11 ประตูด้วยกัน
อย่างไรก็ดี จากผลงานที่ตกลงไปจากฤดูกาลก่อน ส่งผลให้เขาก็เหมือนเช่นฆวน มาตา ที่หลุดจากโผท็อป 5 ของเรา ทั้งที่หากว่ากันตามฝีเท้า เขาควรจะอยู่ใน 5 อันดับแรกอย่างไม่ยากเย็นด้วยซ้ำไป
5. ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
จากกองหน้าตัวสำรองที่เหมือนใกล้จะตกอับในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ย้ายมาแจ้งเกิดเต็มตัวที่แอนฟิลด์ ด้วยการจับคู่กับหลุยส์ ซัวเรซ จนกลายเป็นคู่ศูนย์หน้าที่อันตรายที่สุดในยุโรปคู่หนึ่งชั่วโมงนี้
สเตอร์ริดจ์ใช้เท้าซ้ายกดไปแล้วทั้งสิ้น 12 ประตู จาก 18 ประตูที่เขาทำได้ในเกมลีก เป็นรองดาวซัลโวของอังกฤษในเวลานี้ และคนที่ยิงได้เยอะกว่าเขาเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล หลุยส์ ซัวเรซ คู่ขาตัวฉกาจในทีมหงส์แดงนั่นเอง
4. เมซุต โอซิล
โอซิล อาจจะดูเหมือนฟอร์มตกลงไปบ้างในระยะหลัง และเป็นผู้ร้ายในเกมพ่ายบาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่พลาดจุดโทษสำคัญจนนำมาสู่ความพ่ายแพ้ของทีม แต่คงต้องยอมรับว่าการย้ายทีมของเขาช่วยยกระดับให้อาร์เซนอลกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมันยังคงมีพลังสร้างสรรค์เกมที่เปี่ยมล้น มีลูกจ่ายจากเท้าซ้ายที่เฉียบคม และคงไม่มีกองหลังคนไหนอยากคลาดสายตาจากเขา แม้ฟอร์มการเล่นจนตกลงไปบ้างในระยะหลังก็ตาม
3. อาร์เยน ร็อบเบน
เมื่อต้นฤดูกาลหลายคนออกอาการกังวลว่า อาร์เยน ร็อบเบน ฮีโร่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของเสือใต้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จะเจอปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ของเป็ป กวาร์ดิโอลา จนกุนซือชาวสเปนต้องออกมายืนยันว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ และผลงานในสนามของร็อบเบนก็ช่วยยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
ปีกชาวฮอลแลนด์ยังเป็นทีเด็ดในเกมรุกของยักษ์ใหญ่แห่งบาวาเรีย แม้อายุจะย่างเข้าเลขสามแล้วในตอนนี้ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาน่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมอัศวินสีส้มในฟุตบอลโลกฉบับบราซิลกลางปีนี้อย่างแน่นอน
2. แกเร็ธ เบล
สิงห์อีซ้ายจากเวลส์ลบทุกคำสบประมาทว่าไม่คุ้มค่าตัวตั้งแต่ย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ ด้วยผลงานที่โดดเด่นในสนาม โดยทำได้ 10 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ เข้าไปแล้วในชั่วโมงนี้ จนน่าจะพูดได้ว่า เขาคือเบอร์สองของซานติอาโก้ เบร์นาบิว ตอนนี้ โดยเป็นรองแค่คริสเตียโน โรนัลโด้ เพียงคนเดียว
โดยเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เบลก็เพิ่งยิงได้อีก 2 ประตูในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ถล่มชาลเก้ยับเยิน 6-1 ซึ่งช่วงการันตีได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าเขาก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าของโลกแล้วอย่างแท้จริง
1. ลิโอเนล เมสซี
สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ของบาร์เซโลนา อาจสูญเสียตำแหน่งนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลกให้คริสเตียโน โรนัลโด้ ในฤดูกาลนี้ แต่นั่นก็มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมาเกี่ยวข้อง และถ้าว่ากันเฉพาะผู้เล่นที่ถนัดซ้าย เขาก็ยังต้องถือเป็นเบอร์หนึ่งของโลกแบบนอนมา
เมสซีทำได้ 14 ประตู 8 แอสซิสต์ จากการลงสนามเพียง 16 (2) นัด ซึ่งเป็นสถิติที่น่าทึ่งอยู่ดีเมื่อเทียบกับนักเตะรายอื่นๆ คำถามเดียวและยังเป็นคำถามเดิมที่สร้างความกังขาให้เมสซีอยู่จนถึงเวลานี้ก็คือ เขาดีพอจะพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ได้หรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น