บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน เปิดผยว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาหรือนับจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้นพวกเขาทำเงินรายได้สูงสุดเป็นสถิติ 530 ล้านยูโร (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) โดยคิดเป็นเงินกำไรถึง 41 ล้านยูโร (ราว 1.8 พันล้านบาท) แถมยังลดหนี้สินได้มากถึง 44 ล้านยูโร (ราว 1.9 พันล้านบาท) ทำให้หนี้สินในปัจจุบันเหลือเพียง 287 ล้านยูโร (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท)
นับตั้งแต่ ฆาเบียร์ ฟาอุส เข้ามารับตำแหน่งรองประธานสโมสรและทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเงินเมื่อปี 2010 เจ้าตัวก็สามารถทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ลดหนี้สินลงได้ถึง 143 ล้านยูโร (ราว 6.4 พันล้านบาท) พร้อมทำให้สโมสรกระโดดจากอันดับ 24 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในชาร์ตทีมกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกของ ฟอร์บส์ นิตยสารการเงินชื่อดัง โดยตามหลังเพียง เรอัล มาดริด อริร่วมลีกทีมเดียวเท่านั้น
รายงานระบุว่ารายได้หลักของทีมดังแห่งถิ่นคัมป์ นู มาจากการโฆษณาและการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์หลายรายซึ่งคิดเป็นเงินมหาศาลถึง 169 ล้านยูโร (ราว 7.6 พันล้านบาท) ตามมาด้วยส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ทีวี 161 ล้านยูโร (ราว 7.2 พันล้านบาท) ค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน 128 ล้านยูโร (ราว 5.7 พันล้านบาท) การซื้อ-ขายนักเตะ 53 ล้านยูโร (ราว 2.3 พันล้านบาท) และค่าสมาชิกสโมสร 19 ล้านยูโร (ราว 855 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม "บาร์ซ่า" มีค่าใช้จ่ายในระดับมหาศาลไม่แพ้กันกับรายรับ โดยส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างบุคลากรซึ่งสูงถึง 286 ล้านยูโร (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) และเป็นค่าจ้างเฉพาะของนักเตะ 254 ล้านยูโร (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)
ทั้งนี้ ฟาอุส ยังเปิดเผยด้วยว่า ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะอันดับหนึ่งของโลกช่วยเปิดตลาดในประเทศรัสเซียให้กับสโมสรได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับ เนย์มาร์ ซึ่งช่วยเปิดตลาดในประเทศบราซิล และถือเป็นอีกแหล่งทำเงินทำทองของสโมสรต่อไปในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น