วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัติของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์


ประวัติของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
 
           เมื่อครั้งที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ แฟนบอลอาร์เซน่อลหลายคนอาจไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่เมื่อถึงชั่วโมงนี้แล้วก็คงจะไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในความยอดเยี่ยมของศูนย์หน้าร่างโย่งรายนี้อีก

           หลังจากที่ทำไปได้ 4 ประตูในซีซั่นแรกกับ "ไอ้ปืนใหญ่" อเดบายอร์ ในฤดูกาล 2006/2007 ก็ซัดไป 12  ประตู จากการลงสนามทั้งสิ้น 44 นัด ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ บายอร์เพิ่งมาออกแววเพชรฆาตในฤดูกาล 2007/08 ด้วยจำนวนประตู 30 ลูกจาก 48 นัด ซึ่งทำให้กองเชียร์อาร์เซน่อล พอจะคลายความคิดถึง เธียร์รี่ อองรี อดีตดาวยิงตัวเก่ง ที่ย้ายไปบาร์เซโลน่าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาได้บ้าง
          เส้นทางสู่ถนนลูกหนังของ อเบดายอร์ เริ่มต้นขึ้นในค่ายฝึกซ้อมที่เมืองโลเม่ ในประเทศโตโก และขณะเล่นอยู่ในระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ฝีเท้าของเขาก็โดดเด่นจนไปเตะตาแมวมองของ เม็ตซ์ ทีมจากลีก เอิง เข้าอย่างจัง ก่อนจะถูกเรียกตัวไปทดสอบฝีเท้า และได้เซ็นสัญญากับสโมสรดังของฝรั่งเศส เมื่อปี 1999


          ใช้เวลาอีก 2 ปีในทีมชุดยู-17 ปี อเดบายอร์ ก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขาทำไป 2 ประตูจากการลงสนาม 9 นัดในฤดูกาลแรกในฐานะนักเตะอาชีพ อย่างไรก็ตาม ดาวรุ่งจากโตโก ก็ไม่สามารถช่วยต้นสังกัดให้รอดพ้นจากการตกชั้นได้ ทว่า ในฤดูกาล 2002-03 อเดบายอร์ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงด้วยการซัดไปถึง 17 ประตู จาก 35 เกม และทำให้หลายสโมสรในยุโรปให้ความสนใจ รวมถึงทีมดังอย่าง อาร์เซน่อล และ ยูเวนตุส ด้วย
          กระนั้นก็ตาม ทีมที่คว้าตัวเขาไปกลับเป็นทีมในลีก เอิง อย่างโมนาโก ที่ซึ่งเขาช่วยทำ 7 ประตู ใน 17 นัด ให้ทีมทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการทำ 2 ประตูใน 10 เกม

          อยู่นาน ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็ได้เซ็นสัญญากับ อเดบายอร์ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2006 แบบไม่เปิดเผยค่าตัว แต่สื่อคาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านปอนด์ (ราว 210 ล้านบาท) เท่านั้น และได้สวมเสื้อหมายเลข 25 แทนที่ของ เอ็นวานโก้ คานู อดีตหัวหอกชาวไนจีเรีย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นนักเตะขวัญใจ
         อเดบายอร์ ได้รับสมญานามว่า "เบบี้ คานู" และครั้งหนึ่ง เวนเกอร์ ก็เคยให้คำจำกัดความดาวเตะชาวโตโกตอนที่เซ็นสัญญาว่าเป็น "คานู ที่มีความเร็วบวกด้วย" ในขณะที่สื่อในเมืองผู้ดีกลับให้นิคเนมเขาว่าเป็น "นิว ดร็อกบา" เนื่องจากมีการครองบอลที่ยอดเยี่ยม, ร่างกายที่แข็งแกร่งและโดดเด่นในลูกกลางอากาศ
        เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2006 กองหน้าผิวหมึก ก็ประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกให้กับ อาร์เซน่อล และใช้เวลาเพียง 21 นาที ก็สามารถพังประตูได้อย่างรวดเร็วและช่วยให้ทีมเอาชนะ เบอร์มิงแฮม 2-0 อย่างไรก็ตาม อเดบายอร์ ไม่มีสิทธิลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับต้นสังกัดเนื่องจากติดคัพ-ไทจากการเล่นยูฟ่า คัพ กับ โมนาโก ในช่วงต้นซีซั่นมาแล้ว
        ฤดูกาล 2006-07 อเดบายอร์ ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเขาสามารถเป็นตัวแทนของ อองรี กัปตันทีมที่ได้รับบาดเจ็บได้ และเขาก็กลายเป็นขวัญใจสาวกเดอะ กันเนอร์ส เมื่อเป็นคนทำประตูชัย 1-0 ให้ทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลด้วย ก่อนจะจบซีซั่นนั้นด้วยการทำประตูรวมทุกรายการ 12 ลูก
        ในส่วนของฤดูกาล 2008/09 ทีมอาร์เซนอลฟอร์มไม่ดีนัก หัวหอกร่างโย่ง ผลงานได้น้อยกว่าซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยจำนวนรวม 16 ประตู จาก 37 นัด

         ล่าสุด ก่อนเปิดฤดูกาล บายอร์ได้ย้ายไปร่วมสังกัดใหม่ แมนเชวเตอร์ ซิตี้แล้ว ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ รับค่าเหนื่อย 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ สวมเสื้อเบอร์ 25 ซึ่งเป็นเบอร์เดิม
         ด้าน ผลงานกับทีมชาติ อเดบายอร์ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ โตโก ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย ที่ประเทศเยอรมัน หลังซัดไปถึง 11 ประตูในรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา จนทำให้มีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของกาฬทวีปด้วย และแม้ว่า โตโก จะต้องตกรอบแรกหลังพ่ายไป 3 นัดรวด แต่ อเดบายอร์ ก็ได้รับการยอมรับในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะยิงประตูในรอบสุดท้ายไม่ได้เลยก็ตาม
         ทว่า หลังจากนั้น อเดบายอร์ ก็ถูกสมาคมฟุตบอลโตโกหั่นทิ้งจากทีมชาติเนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องการจ่ายโบนัส อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ถูกเรียกกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในช่วงเดือนก.ย. ที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น